การเริ่มต้นบนถนนสายแฟชั่นเต็มตัวครั้งแรกของ ‘ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก’ กับฝันที่ไม่กล้าฝัน

การเปิดประตูเข้าสู่อีกมิติของอุตสาหกรรมแฟชั่นถือเป็นความท้าทายที่ชวนให้ “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” สร้างโอกาสในการเติมเต็มความฝันในการทำงานแฟชั่นเต็มรูปแบบครั้งแรกกับโว้กประเทศไทย จากนักแสดงสาวดาวรุ่งสู่ซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของเมืองไทย จนวันนี้ใบเฟิร์นกำลังไขกลอนเปิดประตูเพื่อเดินบนเส้นทางใหม่ที่ตัวเองไม่เคยสัมผัสประสบการณ์อย่างเต็มที่มาก่อน VOGUE MORE ครั้งนี้จะพาทุกคนไปสัมผัสกับใบเฟิร์นในมุมของสาวแฟชั่นที่สวมจิวเวลรีชิ้นเด่นจาก BVLGARI และล้วงลึกเรื่องราวเบื้องหลังของความท้าทายสำคัญ มุมมองความฝันเกี่ยวกับโลกแฟชั่น จิวเวลรี และตัวตนของนักแสดงสาวคนนี้อย่างครบถ้วน

VOGUE: จุดเริ่มต้นของใบเฟิร์นเมื่อพูดคำว่า “โว้ก แฟชั่น และจิวเวลรี”

BAIFERN: จุดเริ่มต้นของใบเฟิร์นเกี่ยวกับมิติด้านแฟชั่นต้องย้อนไปถึงวัยเด็กที่ตัวเองอยู่ในฐานะผู้รับสาร ผู้ชม และนับเป็นหนึ่งความใฝ่ฝันที่ครั้งหนึ่งอยากจะลองทำ เรามีภาพในหัวว่าทุกองค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นโว้ก แฟชั่น หรือจิวเวลรี นั้นล้วนนิยามได้ด้วยคำว่า “สวย” และก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งสนใจด้านนี้และฝันอย่างไม่กล้าฝันว่า “จะมีสักครั้งหนึ่งไหมที่ได้ลองทำบ้าง” ซึ่ง VOGUE MORE ครั้งนี้เป็นเหมือนโอกาสที่เปิดประตูต้อนรับเราเข้าสู่เส้นทางนี้อย่างจริงจัง และแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับโว้กประเทศไทยด้วย

V: หลังจากมีโอกาสเข้ามาทำตรงนี้เป็นครั้งแรก คิดว่ามิติใหม่ที่เราได้รับคืออะไร

BF: ทุกอย่างใหม่ทั้งหมดสำหรับเฟิร์น ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการทำงาน การปฏิบัติงานจริง รวมถึงเทคนิคต่างๆ ที่ทำให้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เฟิร์นคิดว่าการถ่ายแบบวันนี้แตกต่างเหมือนเราได้เห็นตัวเองในอีกแบบหนึ่งเลย อย่างที่บอกไปว่าทุกอย่างใหม่มาก เพราะตัวเราเองเริ่มจากงานแสดงมาตลอดเป็นสิบปี พอมาถ่ายแบบแฟชั่น ทุกวินาทีที่ทำงานถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ซึ่งก่อนมาถ่ายเราก็เตรียมตัวและพร้อมเปิดรับทุกเรื่องอย่างเต็มที่ ทุกๆ อย่างที่ทุกคนแนะนำเราก็พยายามจะทำตามให้ได้ มันเหมือนเป็นความท้าทายที่ออกจากกรอบของโลกการแสดงอย่างสิ้นเชิง

V: ฝันที่ใบเฟิร์นวาดไว้การเข้าวงการคืออะไร และภาพฝันเกี่ยวกับวงการแฟชั่นเป็นอย่างไร

BF: เฟิร์นอยากเป็นนักแสดงมาก เราอยากเป็นคนเก่งที่ทุกอยากร่วมงานด้วย สิ่งนี้น่าจะเป็นความฝันของการเป็นนักแสดงที่วาดไว้ตั้งแต่เด็ก ส่วนมิติด้านแฟชั่นเราเองก็ชอบและติดตามมาตลอด ถ้ามีโอกาสก็อยากจะถ่ายสักครั้ง แต่เราไม่เคยกล้าคิดเลยว่าใบเฟิร์นบนปกนิตยสารแฟชั่นหรือแม้แต่ในแฟชั่นเซ็ตจะออกมาเป็นอย่างไร อย่างโว้กแต่ละฉบับก็มีความสวยแตกต่างกัน เราก็เสพความสวยงามตรงนั้น แต่ไม่เคยลองคิดเลยว่าถ้าตัวเองอยู่ในจุดนั้นภาพจะออกมาเป็นแบบไหน

V: ในวันที่ทุกคนเห็นภาพคาแร็กเตอร์ของใบเฟิร์นชัดเจนมาก มาถ่ายแบบแฟชั่นกับโว้กครั้งนี้ต้องปรับตัวอะไรไหม

BF: เราแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย ทุกอย่างที่ทุกคนเตรียมกันมาตั้งแต่ต้นดีอยู่แล้ว ทีมงานทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ตามเป้าหมาย แสงก็สวย จิวเวลรีก็โดดเด่นด้วยตัวเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพียงแค่พยายามลื่นไหลไปกับองค์ประกอบต่างๆ ให้ดีที่สุด เราคิดว่าตัวเราสามารถไปได้กับทุกสไตล์อยู่แล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องแฟชั่น แต่เฟิร์นหมายถึงมุมของการแสดงด้วย ซึ่งเราคิดว่าเราสามารถปรับตัวไปกับตัวละคร สถานการณ์ และปัจจัยต่างๆ ได้ดี

V: นอกจากภาพแฟชั่นในเซ็ตนี้ที่ทั้งแกลมและหรูหราแล้ว ใบเฟิร์นอยากลองอะไรอีกในเส้นทางแฟชั่นที่กำลังเริ่มต้นขึ้น

BF: จริงๆ เฟิร์นอยากลองหลายๆ แบบนะ ถ้ามีโอกาสได้ลองเราก็อยากรู้ว่าสิ่งที่เขาทำกันในวงการนี้มันไปไกลได้ถึงไหน ในวันนี้เราอยู่ในจุดเริ่มต้น เราก็อยากเดินหน้าต่อเพื่อค้นหาอะไรใหม่ๆ เหมือนกัน

V: คิดว่ามิติการทำงานด้านไหนที่ทำให้ใบเฟิร์นรู้สึกตัวเองทำได้ดีที่สุด

BF: การแสดงค่ะ เพราะเราทำงานด้านนี้มาหลายปี เรารู้สึกว่าเราสบาย เวลาที่ทำการบ้านและสวมบทเป็นตัวละครต่างๆ งานตรงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่คิดว่าตัวเองมั่นใจที่สุดแล้ว

V: คาแร็กเตอร์ของตัวเองกับคาแร็กเตอร์ของบุลการีมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรในมุมมองของใบเฟิร์น

BF:เราคิดว่าคาแร็กเตอร์ของเรากับบุลการีมีความเหมือนตรงความเท่ สไตล์ของเรากับจิวเวลรีของบุลการีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เปรียบเหมือนสาวเท่ที่พร้อมนำเสนอแง่มุมทั้งความแอกทีฟและเรียบหรูในเวลาเดียวกัน เวลาเราเห็นจิวเวลรีของบุลการีทำให้เรารู้สึกอยากหยิบมาใส่ เพราะคิดว่าน่าจะเหมาะกับสไตล์เรียบง่ายของเรา ในอีกด้านหนึ่งจิวเวลรีจากบุลการีนำเสนอความแกลมที่ดูเป็นขั้วตรงข้ามนิดๆ ซึ่งในวันปกติอาจจะไม่ใช่ตัวตนของเรามากนัก แต่ก็ยังสามารถเข้ากับเราได้ลงตัว เหมือนกับว่าความแกลมของบุลการีสามารถเข้ากับเราได้โดยที่ไม่ต้องพยายามแกลมตลอดเวลา

V: จิวเวลรีชิ้นโปรดในแต่ละวัน และจิวเวลรีชิ้นที่ชื่นในการถ่ายแบบครั้งนี้ของใบเฟิร์นคือชิ้นไหน

BF: สำหรับเราจิวเวลรีชิ้นประจำตัวคือสร้อยคอเส้นเล็กๆ ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงอาจจะใส่เสื้อคอกว้าง สร้อยคอเล็กๆ สร้างความน่ารักและช่วยฟินิชลุคได้ไม่ยาก หรือถ้าต้องสไตลิ่งคู่กับจิวเวลรีอีกสักชิ้นก็จะเลือกตุ้มหูเล็กๆ สีเข้ากัน ส่วนเสื้อผ้าเรามองว่าแล้วแต่คนเลย ขอให้สามารถแสดงตัวตนของตัวเองออกมาได้ดีที่สุด ส่วนตัวชอบอะไรที่เคลื่อนไหวง่ายและพอดีกับสัดส่วนของเรา ถ้าเราใส่เสื้อผ้าโดยไม่ต้องกังวลก็จะช่วยบุคลิกเราดูดีไปด้วย และจิวเวลรีที่เฟิร์นชอบที่สุดวันนี้ยกให้นาฬิกา Serpenti Tubogas ที่มีสายยาวพันรอบแขนอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้อยากฝากถึงคนรุ่นใหม่ว่าจิวเวลรีทุกชิ้นที่เราเห็นโดยเฉพาะ High Jewelry จากบุลการีนั้นผ่านกระบวนคิดอย่างละเอียดยิบ จิวเวลรีจึงไม่ได้เกี่ยวกับช่วงอายุ เพราะความสวยงามของจิวเวลรีทุกชิ้นสะท้อนความโดดเด่นเฉพาะตัวที่น่าลองสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

 

V: เป้าหมายในอนาคตของใบเฟิร์นในอีก 5 ปีข้างหน้าคืออะไร และจุดสูงสุดในชีวิตเป็นแบบไหน

BF: เฟิร์นก็ยังชอบอาชีพนักแสดงอยู่เหมือนเดิม ยังคงอยากเป็นนักแสดงที่เก่ง มีคนอยากร่วมงานด้วยเยอะๆ เหมือนความฝันแรกที่เริ่มเข้าวงการ เพราะรู้สึกว่าในอีก 5 ปีก็ยังอยากทำสิ่งนี้อยู่ หลายปีที่ผ่านงานเยอะมากจนขาดความลงตัวไปบ้าง เหนื่อยและท้ออยู่พอสมควร เราเลยอยากจัดสรรชีวิตให้ลงตัวกว่านั้นและให้เวลากับตัวเองมากขึ้น และจุดสูงสุดเฟิร์นไม่สามารถตอบได้ว่าจุดไหนจะสูงสุดจริงๆ เราก็ยังเดินตามเส้นทางของเราไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ที่ก้าวมาถึงจุดนี้เหมือนเป็นโบนัสที่ทะลุฝันมาไกลมากแล้ว เปรียบกับการมาถ่ายโว้กครั้งนี้ก็เป็นอีกโบนัสที่เติมความสมบูรณ์แบบให้ชีวิตโดยที่เราก็ยังไม่รู้ว่าอะไรจะสูงสุดหรือใหญ่สุด เราก็จะมองว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวเดินสำคัญและมีความสุขไปกับมัน ชีวิตของเรามาถึงระดับ 10 เต็ม 10 ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนคะแนนพิเศษที่บวกไปจากคะแนน 10 เต็มต่อไปไม่รู้จบ

 

V: โซเชียลมีเดียเปิดโอกาสให้มีดาวดวงใหม่เกิดขึ้นมากมาย หรือแม้แต่ช่วยให้ผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงหนึ่งสามารถก้าวเดินในเส้นทางใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิงหรือวงการแฟชั่น ใบเฟิร์นคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง

BF: เรารู้สึกว่ามีทั้งข้อดีและข้อไม่ดี สำหรับเฟิร์นเราสามารถอัปเดตชีวิตของเราโดยตรง เข้าถึงกันได้มากขึ้น ได้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และการก้าวมาถึงจุดที่เรากล้าเปิดตัวเองเพื่อรับสิ่งใหม่ๆ อย่างเช่นการทำงานแฟชั่นวันนี้ก็คิดว่าโซเชียลมีเดียมีส่วนสำคัญที่ผลักดันเรามาถึงจุดนี้เช่นกัน

 

V: เราจะได้เห็นใบเฟิร์นบนโลกอนาคตอย่าง Metaverse หรือโลกเสมือนเร็วๆ นี้ไหม

BF: ถ้ามีโอกาสใครๆ ก็คงอยากลองสิ่งนี้ แต่ก็ยังไม่มีแพลนเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก วันหนึ่งอาจจะเกิดขึ้น แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่นอน ตอนนี้เฟิร์นยังพร้อมเสิร์ฟผลงานการแสดงบนโลกดิจิทัลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม

 

V: ฝากถึงแฟนๆ โว้กเกี่ยวกับ VOGUE MORE ครั้งนี้

BF: นี่เป็นการทำงานด้านแฟชั่นแบบเต็มตัวครั้งแรกของเฟิร์น ตั้งใจมาก ตื่นเต้นมาก ถือเป็นก้าวแรกบนเส้นทางใหม่ บุลการีเองก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้ลองสไตลิ่งลุคแฟชั่นในแบบที่ตัวเองไม่ค่อยมีเวลาและโอกาสในการถ่ายภาพหรือแต่งเนื้อแต่งตัวแบบนี้มาก่อน เพราะวันปกติจะสวมบทนักแสดงที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปกับบทบาทต่างๆ ตลอดเวลา ครั้งนี้เป็นอีกวันที่รู้สึกดี และชอบที่ตัวเองที่ได้อยู่ในฐานะสาวแฟชั่นแบบเต็มตัว มากไปกว่านั้นยังช่วยเสริมความคิดที่ว่าจิวเวลรีของบุลการีเหมาะสำหรับทุกคน พอมองย้อนกลับไปเราก็อยากแต่งตัว สวมจิวเวลรีแบบนี้ในทุกๆ วัน สุดท้ายนี้ก็ฝากติดตามมือใหม่แห่งวงการแฟชั่นกับลุคโก้หรูในเซ็ตนี้ด้วยนะคะ

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *